บทความไซเบอร์เน็ต : เปิดจุดเด่น iPad Pro ใหม่ มาพร้อม LiDAR Scanner

“แอปเปิล” เปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงใหม่ที่สำคัญท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก ทำให้ “แอปเปิล” ได้ปรับกลยุทธ์จากการจัดอีเวนต์เปิดตัวที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มาเป็นการจัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์แทน โดยเปิดตัว iPad Pro และ MacBook Air ประจำปี 2020

หลังจาก “แอปเปิล” ได้เปิดตลาดแท็บเล็ตด้วยการส่ง iPad รุ่นแรกออกสู่ตลาดจนมาถึงปีนี้ iPad ได้ครบรอบ 10 ปี เป็นผู้นำในตลาดที่โดดเด่นมาก ผู้บริโภคมีความพึงพอใจการใช้งานและมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง จนถึงปัจจุบันสามารถทำยอดขายทั่วโลกไปแล้วกว่า 500 ล้านเครื่อง มีแอปพลิเคชันรองรับ 1 ล้านแอป และ iPadOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับ iPad ที่ได้เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา

แอปเปิล มองว่า iPad Pro ใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยที่สุดกับการเริ่มต้นศักราชใหม่ในอีก 10 ปีข้างหน้าต่อไป

กล้อง จอภาพ ระบบเสียงระดับโปร

เริ่มตั้งแต่การใช้ชิป A12Z Bionic ที่ทำให้ iPad Pro เร็วและทรงพลังยิ่งกว่าแล็ปท็อป PC ที่ใช้ Windows โดยส่วนใหญ่ สำหรับงานที่ต้องประมวลผลหนักๆ อย่างการตัดต่อวิดีโอ 4K หรือการออกแบบโมเดล 3D และ GPU แบบ 8-core ใน A12Z Bionic รวมถึงสถาปัตยกรรมการควบคุมความร้อนที่ดียิ่งขึ้น และตัวควบคุมประสิทธิภาพที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี iPad Pro จึงมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาใน iPad เลยทีเดียว

มาพร้อมกล้องระดับโปร 2 ตัวคือกล้องไวด์ ขนาด 12MP สำหรับถ่ายภาพและวิดีโอระดับ 4K กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 10MP ที่ซูมออกมาได้ 2 เท่าเพื่อเก็บภาพในมุมมองที่กว้างขึ้น และกล้องตัวที่สองที่เพิ่มเข้ามานี้เองคือสิ่งที่ช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพและวิดีโอขึ้นอีกเท่าตัวโดยการเปิดมุมมองที่แตกต่างและการใช้งานแบบหลายกล้อง

iPad Pro ใหม่มาพร้อมกับ LiDAR Scanner ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่เคยทำได้มาก่อนบนอุปกรณ์พกพา เพราะ LiDAR Scanner สามารถวัดระยะไปยังวัตถุรอบๆ ที่อยู่ไกลสูงสุด 5 เมตร โดยสามารถใช้งานได้ทั้งในและนอกอาคาร รวมถึงทำงานได้ละเอียดในระดับโฟตอนที่ความเร็วระดับนาโนวินาทีเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ ยังมีเฟรมเวิร์กใหม่ด้านมิติความลึกใน iPadOS ที่จะรวมความลึกหลายๆ จุดที่วัดโดย LiDAR Scanner เข้ากับข้อมูลที่ได้จากทั้งกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อประสบการณ์ใหม่ของโลกความจริงเสริม หรือ AR

iPad Pro มี 2 ขนาดคือ จอภาพ Liquid Retina แบบขอบจดขอบทั้งในรุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว เทคโนโลยี ProMotion ที่จะปรับอัตรารีเฟรชของจอภาพสูงสุด 120 Hz โดยอัตโนมัติเพื่อให้การเลื่อนหน้าจอมีความลื่นไหลสุดๆ และตอบสนองรวดเร็วทันใจ ด้านระบบเสียงระดับโปร มาพร้อมไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ 5 ตัว ลำโพง 4 ตัวปรับตามแนวการหมุนเครื่องโดยอัตโนมัติไม่ว่าจะถือแบบไหน

ด้านระบบปฏิบัติการ iPadOS 13.4 มาพร้อมการรองรับแทร็กแพดเพิ่มความแม่นยำให้กับงานอย่างการเขียนและการเลือกข้อความ การทำงานกับสเปรดชีต และเวิร์กโฟลว์ระดับโปรด้วย โดยเคอร์เซอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับประสบการณ์การใช้งาน iPad ที่เน้นการสัมผัสเป็นหลักนั้น จะปรากฏในรูปแบบของวงกลมที่เน้นองค์ประกอบในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ ช่องข้อความ รวมถึงแอปในหน้าจอโฮมและ Dock เพื่อบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าผู้ใช้สามารถคลิกอะไรได้บ้าง

Magic Keyboard มีไฟแบล็กไลต์และแทร็กแพด

สำหรับอุปกรณ์เสริม Magic Keyboard เป็นคีย์บอร์ดที่ถูกออกแบบมาจะยึดติดกับ iPad Pro ด้วยแม่เหล็ก และมาพร้อมดีไซน์ที่จะยกหน้าจอ “มัลติทัช” ให้ลอยขึ้นมา เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายไม่ว่าจะวางบนตักหรือบนโต๊ะ ส่วนบานพับแบบปรับเอนได้อันเป็นเอกลักษณ์ก็ช่วยให้สามารถปรับมุมในการมองได้อย่างลื่นไหลสูงสุดถึง 130 องศา พร้อมคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานพร้อมปุ่มแบบแบล็กไลต์

ส่วนแทร็กแพดแบบคลิกตรงไหนก็ได้บน Magic Keyboard เข้ามาเติมเต็มดีไซน์ที่เน้นการสัมผัสเป็นหลักของ iPad เพื่อให้การไปยังส่วนต่างๆ และการปรับแต่งนั้นทำได้ง่ายและแม่นยำ ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน iPad Pro ทั้งในด้าน การทำงานและความอเนกประสงค์ให้เหนือชั้นไปอีกขั้น

ทางแอปเปิลเตรียมเปิดให้สั่งซื้อ iPad ใหม่ในเร็วๆนี้ทาง apple.com/th และแอป Apple Store รุ่น 11 นิ้ว มีให้เลือกระหว่างสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ โดยมีความจุเริ่มต้นที่ 128GB ราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท ไปจนถึง 57,400 บาทในรุ่น 12.9 นิ้ว Wi-Fi + Cellular สำหรับนักศึกษารวมถึงครอบครัว คณาจารย์ พนักงาน และครูที่สอนแบบโฮมสคูลในทุกระดับชั้น iPad Pro รุ่น 11 นิ้วใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 26,200 บาท

ส่วน Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro จะวางจำหน่ายในเดือน พ.ค.ในราคา 9,990 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 11,690 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว

MacBook Air อัปเกรดใหม่

ทางด้าน MacBook Air 2020 ถูกอัปเกรดใหม่มาพร้อมประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นจอภาพ 13 นิ้วรองรับ 6K Magic Keyboard ใหม่ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้น 2 เท่า และราคาเริ่มต้นที่ปรับลดใหม่เหลือเพียง 32,900 บาท และ 29,600 บาทสำหรับนักศึกษาในมาตรฐานความจุ 256GB ใช้โปรเซสเซอร์ Quad-core Intel Core ล่าสุดรุ่นที่ 10 ที่ปรับแต่งได้สูงสุดเป็น Core i7 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.2 GHz พร้อม Turbo Boost สูงสุด 3.8 GHz และ Intel Iris Plus Graphics ยังทำให้ MacBook Air มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกเร็วขึ้นถึง 80%.

Source: thairath