
การย้ายฐานที่ตั้งใหม่ของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายังประเทศไทย ด้วยตัวเลขประชากรที่มีกว่า 69 ล้านคน และมีมากกว่า 51 ล้านคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต ซึ่งประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในตลาดที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้มาก และยังเป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินทางมือถือสูงมาก
ทั้งหมดคือศักยภาพที่เสียวหมี่มองเห็น โดยในปีหน้าได้วางแผนที่จะเพิ่มช่องทางร้านค้า Mi Store และช่องทางค้าปลีกให้มากขึ้น เพื่อขยายการบริการหลังการขายและได้มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้ลูกค้า รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจโดยนำศักยภาพความร่วมมือของพันธมิตรมาผลักดันให้ธุรกิจเติบโต ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปี 2019 รายได้ในภาพรวมเพิ่มขึ้นกว่า 5.5% มีมูลค่ารายได้กว่า 53.7 พันล้านหยวน ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้มาจากธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ต่างประเทศนอกประเทศจีน มีรายงานอื่นเผยว่าเสียวหมี่ยังเป็นแบรนด์หนึ่งใน 5 อันดับ ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก
Source: brandinside
 

 








0 comments:
Post a Comment