Tuesday, March 31, 2020

จริงหรือ...แบตเตอรี่อะลูมิเนียมไอออน เหนือกว่า ลิเธียมไอออน


นักเทคโนโลยีจากศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงฯ นำเสนอจุดเด่นจุดด้อยของแบตเตอรี่ 2 ชนิดระหว่างแบตอะลูมิเนียมไอออนที่มีราคาค่อนข้างถูก ไม่ระเบิด กับแบตลิเธียมไอออนซึ่งนิยมใช้แพร่หลาย

ในปัจจุบันความต้องการอุปกรณ์กักเก็บพลังงานประสิทธิภาพสูง อย่างแบตเตอรี่ ได้เพิ่มขึ้นจากการใช้งานในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา อุปกรณ์กักเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานทางเลือก อุปกรณ์สำรองไฟฟ้าในระบบกริด รวมทั้งเป็นแหล่งพลังงานให้กับยานยนต์ไฟฟ้า-ไฮบริด เป็นต้น


อุปกรณ์กักเก็บพลังงานที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายคือ แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออน (lithium-ion battery) มีคุณสมบัติเด่นในหลายด้าน ได้แก่ มีความหนาแน่นพลังงานสูง อัตราคายประจุตัวเองต่ำ อายุการใช้งานยาวนาน แต่ด้วยข้อจำกัดด้านความปลอดภัยที่สามารถระเบิดและติดไฟได้เมื่อสัมผัสกับอากาศ และมีการใช้ สารอิเล็กโตรไลต์ (electrolyte) ที่มีความเป็นพิษ อีกทั้งแร่ลิเธียมยังมีราคาสูงเนื่องจากแหล่งแร่มีจำกัดและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศได้ในอนาคต ดังนั้น การพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดที่มีความปลอดภัย ราคาถูก มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความหนาแน่นพลังงานสูง และมีแหล่งวัตถุดิบปริมาณมากโดยเฉพาะแร่โลหะที่เป็นองค์ประกอบหลักของแบตเตอรี่ชนิดนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อการพัฒนาและความมั่นคงทางด้านพลังงานของประเทศ

การพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดอื่น นอกจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถแบ่งประเภทได้ตามแต่ละชนิดของโลหะ อาทิเช่น โซเดียมไอออน โพแทสเซียมไอออน แคลเซียมไอออน แมกนีเซียมไอออน สังกะสีไอออน และอะลูมิเนียมไอออน เป็นต้น โดยพบว่า แบตเตอรี่ชนิดอะลูมิเนียมไอออน มีความน่าสนใจ ซึ่งนอกจากจะเป็นธาตุที่มีมากเป็นลำดับ 3 รองจาก ออกซิเจนและซิลิกอนบนเปลือกโลกแล้ว แร่อะลูมิเนียมยังมีราคาค่อนข้างถูก ประมาณ 70 บาทต่อกรัม เมื่อเทียบกับแร่โลหะลิเทียม (10,000 บาทต่อกรัม) นอกจากนี้ อะลูมิเนียมยังเป็นโลหะที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ไม่ระเบิดเมื่อสัมผสกับอากาศและความชื้น และด้วยการที่อะลูมิเนียมสามารถให้ประจุบวกได้ถึง 3 ตัว (Al3+) จึงทำให้ค่าความความจุปริมาตรจำเพาะตามทฤษฎีของแบตเตอรี่อะลูมิเนียมไอออนนั้นมีค่าเท่ากับ 8,046 mAh/cm ซึ่งมากกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนถึง 4 เท่า


รวมถึงเล็กโตรไลต์ที่ใช้กับระบบของแบตเตอรี่อะลูมิเนียมไอออนนั้น เป็นสารอะลมูิเนียมคลอไรด์รว่มกับของเหลวไอออนิก ซึ่งไม่ติดไฟและไม่มีมีความเป็นพิษ จึงทำให้แบตเตอรี่อะลูมิเนียมไอออนมีพลังงานสูง ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างไรก็ตาม การพัฒนาแบตเตอรี่อะลูมิเนียมไอออนยังคงมีข้อจำกัดบางประการที่ต้องพัฒนา ได้แก่ การพัฒนาช่วงศักย์ไฟฟ้าให้สูงขึ้น และการค้นหาวัสดุที่ใช้เป็นขั้วแคโทด ซึ่งปัจจุบันยังคงมีตัวเลือกน้อยเนื่องจากต้องการความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับที่ดีของอะลูมิเนียมไอออนสำหรับจะใช้เป็นขั้วแคโทด

ปัจจุบันพบว่าวัสดุกราฟีนได้ถูกนำมาใช้เตรียมเป็นขั้วแคโทด และสามารถเพิ่มช่วงศักย์ไฟฟ้าได้สูงถึง 1.7 โวลต์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการกักเก็บพลังงานต่อรอบชาร์จ (round-trip efficiency) ส่งผลให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานโดยสามารถอัดและคายประจุ มากกว่า 10,000 รอบ ซึ่งมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถึง 3 เท่า แบตเตอรี่ทรงพลังและอึดแบบนี้ต้องช่วยกันลุ้นว่า จะมาแทนแบตเตอรี่ลิเธียมที่เราใช้กันอยู่ในเร็ววันได้ไหม


*บทความโดย ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศและการประยุกต์เชิงพาณิชย์ สวทช., เมธีวิจัยอาวุโส สกว.,สมาคมวิจัยวัสดุประเทศไทย


สมาร์ทโฟน Xiaomi กล้อง 5 เลนส์ คู่กับ Snapdragon 765G ผ่านการรับรองใน FCC คาดเป็น Mi Note 10 Lite

ย้อนกลับไปในปี 2019 Xiaomi Mi Note 10 มาเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มีความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ล่าสุด มีข้อมูลจาก FCC หรือ คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ เผยถึงสเปคของ Xiaomi โมเดล M2002F4LG ที่น่าจะเป็น Mi Note 10 Lite


สำหรับ Mi Note 10 รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB มีโมเดล M1910F4G ขณะที่รุ่นใหม่ใช้โมเดล M2002F4LG ที่น่าจะเป็นรุ่น Lite มีสเปคต่างๆ ที่เปิดเผยออกมา ดังนี้

  • หน้าจอแสดงผลโค้ง ชนิด OLED ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 19:9
  • หน่วยประมวลผล : Snapdragon 730G
  • กล้องหลัง : 64 + 8 + 8 + 5 + 2 ล้านพิกเซล
  • ซอฟต์แวร์ : Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 11
  • แบตเตอรี่ 5260mAh รองรับ Fast Charge 30W

หากดูแบบนี้สเปคที่ Mi Note 10 กับ Mi Note 10 Lite แบบหลักๆ ก็น่าจะเป็นเลนส์ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ที่ลดลงมาเป็น 64 ล้านพิกเซลแทน อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องมาดูกันครับว่าจะเป็น Mi Note 10 Lite ตามที่คาดการณ์กันหรือไม่

Source: XDA, iphone-droid

Xiaomi เปิดตัวเครื่องปั่นแบบพกพา Zhenmi Wireless Vacuum Portable Juicer ราคาราว 1,000 บาท

Xiaomi เปิดตัวเครื่องปั่นแบบพกพา Zhenmi Wireless Vacuum Portable Juicer ในาราคาสุดประหยัด


Zhenmi Wireless Vacuum Portable Juicer มาในรูปแทรงที่ดูสวยงามน่าใช้งาน แถมยังจับถือได้สะดวกอีกด้วย มีให้เลือก 2 สี คือ Cherry Pink และ Light Blue โดยในการปั่นจะมี 4 ใบมีดแบบสแตนเลส ซึ่งระหว่างการปั่นไม่จำเป็นต้องเขย่าเพื่อให้ปั่นได้ทั่วถึงด้วย ทั้งยังมีโหมดปั่นน้ำแบบรวดเร็วเพียง 28 วินาที ส่วนโหมดปกติจะได้เวลา 40 วินาที


ทั้งนี้ ตัวเครื่องปั่นยังมีแบตเตอรี่ความจุ 2400mAh สามารถปั่นน้ำได้ 25 แก้วเมื่อชาร์จเต็ม ทั้งยังรองรับชาร์จจาก Power Bank และ Car Charger โดยชาร์จเต็มใน 2 ชั่วโมง


สำหรับ Zhenmi Wireless Vacuum Portable Juicer มีราคาอยู่ที่ 239 หยวน หรือประมาณ 1,000 บาท เริ่มส่งออกในจีนตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนนี้เป็นต้นไป โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ Xiaomi Youpin

Source: gizmochina, iphone-droid

ชมสีใหม่ OnePlus 8 ในนาม ‘Interstellar Glow’ และ ‘Glacial Green’ ไล่เฉดแบบใหม่ไฉไลกว่าเดิม

OnePlus 8 series คาดว่าที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีไม่กี่สัปดาห์ข้างนี้แล้ว ล่าสุด ก็มีภาพเรนเดอร์ทางการที่ออกมาในเห็นถึงสีสันแบบใหม่ที่ดูจะเล่นเฉดได้สวยงามกว่า OnePlus รุ่นก่อนหน้านี้ในชื่อสี ‘Interstellar Glow’


ภาพเรนเดอร์ดังกล่าวเป็น WinFuture และ Ishan Agarwal ได้ร่วมมือกันทำขึ้นมาครับ ซึ่งจะเป็นไล่เฉดของสีส้มไปถึงสีม่วงที่ดูร้อนแรงไม่เบา รวมไปถึงสี ‘Glacial Green’ ที่เป็นสีเขียวมิ้นท์ และสี ‘Onyx Black’ ที่เป็ดำทึบทั้งตัวเครื่อง



สำหรับ OnePlus 8 series ตามข่าวลือก่อนหน้านี้จะมีการเปิดตัวในวันที่ 15 เมษายนนี้ โดยเราน่าจะได้เห็นโปสเตอร์ทางการในเร็วๆ นี้

Source: WinFuture, Ishan Agarwal, iphone-droid

MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว (ต้นปี 2020) ขายแล้วที่ Apple Store ออนไลน์ไทย เริ่มต้น 32,900 บาท


Apple เปิดขาย MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว (ต้นปี 2020) ที่ Apple Store ออนไลน์ไทย ที่มาพร้อมคีย์บอร์ดกลไกแบบกรรไกรและปรับความจุเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 32,900 บาท

MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว (ต้นปี 2020) ขายแล้วที่ Apple Store ออนไลน์ไทย

  • รุ่นโปรเซสเซอร์ Core i3 แบบ Dual-core ความเร็ว 1.1GHz พร้อมความเร็ว Turbo Boost สูงสุด 3.2GHz ราคา 32,900 บาท
  • รุ่นโปรเซสเซอร์ Core i5 แบบ Quad-core ความเร็ว 1.1GHz พร้อมความเร็ว Turbo Boost สูงสุด 3.5GHz ราคา 42,900 บาท
*สามารถปรับแต่งสเปคเพิ่มเติมได้

ผู้ซื้อสามารถกดสั่งซื้อได้เลยที่หน้าเว็บ Apple Store ออนไลน์ไทย หรือซื้อผ่านแอป Apple Store ก็ได้
ไฮไลท์


  • หน้าจอเรตินา 13 นิ้ว เทคโนโลยี True Tone
  • มาพร้อม Magic Keyboard ใหม่ ใช้กลไกลแบบกรรไกรเหมือนกับ MacBook Pro 16 นิ้ว
  • ความจุ SSD เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่า เริ่มต้นที่ 256GB
  • สามารเลือกโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 แบบ Quad‑core ที่มีประสิทธิภาพ CPU เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่าและประสิทธิภาพกราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 80%
  • หน่วยความจำ 3733MHz ประสิทธิภาพสูง อัปเกรดสูงสุดขนาด 16GB
  • ปลดล็อคด้วย Touch ID
  • ชิพ Apple T2 Security ที่เน้นด้านความปลอดภัย
  • แทร็คแพด Force Touch
  • พอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต
  • รองรับการต่อจอภาพ 6K ภายนอก 1 จอ ความละเอียด 6016 x 3384 ที่ 60Hz

คลิปสรุปเปิดตัว MacBook Air 2020


Source: iphonemod